ขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต คำที่ตำรวจชอบใช้กับรถเก๋ง ต้องเป็นเช่นนี้ทุกครั้งหรือ ? ( ตอนที่ 2 ตอน เมื่อสู้ไม่ได้ก็ต้องหัก )
ในขณะที่ร้อยเวร ก็พิมพ์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ พร้อมกับบอกนันท์ “ในเมื่อมีคนตายก็ต้องมีคนผิด ยังไงเดี๋ยวน้องต้องเซ็นต์ เอกสารรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อประกอบคดี ยังไงก็ต้องส่งฟ้อง”
นันท์ เถียงกลับไปว่า “เขาไม่ได้ประมาท เพราะไม่ได้ฝ่าไฟแดง ไม่ได้เมา ไม่ได้ขับรถเร็ว เป็นการขับรถมาปกติ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ตายจะโดดลงมาใส่รถเขา แฟนเขาที่นั่งไปกับรถก็เป็นพยานได้”
ร้อยเวร ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “แฟนคุณก็ต้องเข้าข้างคุณอยู่แล้ว เป็นพยานก็ไม่มีน้ำหนัก” นันท์ ได้แต่โวยวายว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ รถก็เสียหาย ตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บ แถมยังต้องมาเป็นผู้ผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง รับฟังข้อมูลดังกล่าวแบบผ่านหู มือยังคงพิมพ์แป้นพิมพ์ มุ่งหมายว่าวันนี้ยังไง คนที่อยู่ตรงหน้าก็ต้องเซ็นต์ชื่อรับข้อกล่าวหาที่เขาได้บอกกล่าวไป
นันท์ เริ่มคิดถึงคำแนะนำของเพื่อนต่างคณะ ซึ่งเพิ่งผ่านการรับปริญญาด้วยกันมาหมาดๆ โดยนันท์ได้ โทรไปถามเพื่อขอคำแนะนำ ก่อนที่จะมาวันนี้ เพื่อนบอกว่า “ถ้าเขาถามเยอะมึงก็บอกไปเลยว่ามึงมีสิทธ์ที่จะไม่ตอบ ไม่ทำตาม และจะมาใหม่พร้อมทนาย” ในขณะที่นันท์ กำลังจะใช้ประโยคนี้พิฆาต ตำรวจ ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา คนนั้นคือ พี่กฤต หรือชื่อจริงกฤตบรร คนที่พ่อแม่ของนันท์ให้มาช่วยดูแลนันท์ในเรื่องนี้
นันท์จึงขอร้อยเวรไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับชวนให้กฤตออกไปด้วย เมื่อออกมาจากห้องเขาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องนั้น และสิ่งที่ตนกำลังจะพูด ให้กฤตฟัง
เมื่อ กฤต ฟังเรื่องราวจนครบก็พูดทันทีว่า “ใจเย็นๆ ก่อนน้อง แน่ใจแล้วหรือว่าจะพูดอย่างนั้น คือมันก็ไม่ผิดนะพูดได้ แต่นั่นหมายถึงการส่งสัญญาณว่าเราจะหักกับตำรวจแล้วนะครับ น้องต้องแน่ใจว่าพร้อมนะ เพราะถ้าเป็นคดี ตำรวจคนนี้จะเป็นคนที่เขียนสำนวนทั้งหมดส่งให้ศาลนะครับ สำนวนจะแรงหรือเบาก็ขึ้นอยู่กับเขา และถ้าเป็นคดีก็จะเสียเวลาและเสียเงินมากๆ ด้วย” นันท์ หยุดคิดและฟังอย่างตั้งใจ กฤตพูดต่อ “อย่างแรกน้องคิดว่ามีอะไรที่เป็นข้อต่อสู้บ้างครับ” นันท์ตอบทันทีว่าพยาน ทั้งคนที่เห็นเหตุการณ์ และ แฟนสาวของตนที่นั่งมาด้วยกัน
เมื่อรู้คำตอบ กฤตจึงกล่าวว่า “ พี่ว่ายังไม่แน่นพอครับ เพราะพยานที่เห็นเหตุการณ์วันนั้น น่าจะกระจัดกระจายไปแล้ว และถ้าอยู่ก็คงเป็นเรื่องยาก ที่เขาจะยอมมาขึ้นศาล ส่วนแฟนนั้น น่าจะมีน้ำหนักน้อย เพราะเสียเปรียบในเรื่องความไม่เป็นกลางครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง : http://www.kstronginsure.com/read/13284
|
|
